เหตุการณ์สำคัญ
ต่อมาในปี 2556 บริษัทได้ปรับโครงสร้างการถือหุ้นมาเป็นการถือหุ้นโดย ดร.ตฤณวรรธน์ ธนิตนิธิพันธ์ ร้อยละ 94.90 ของทุนจดทะเบียนชำระแล้วของบริษัท โดย ดร.ตฤณวรรธน์ ธนิตนิธิพันธ์ มีวิสัยทัศน์ที่จะนำเสนอนวัตกรรมที่เป็นทางเลือกใหม่ๆ ในการป้องกันและรักษาโรคสำหรับคน จึงได้เข้ามาบริหารงานในบริษัท และเป็นจุดเริ่มการขยายธุรกิจด้านผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพกลุ่มโภชนเภสัชภัณฑ์ (Nutraceuticals Product) ภายใต้เครื่องหมายการค้า “INTERPHARMA” โดยเริ่มต้นจากกลุ่มผลิตภัณฑ์รักษาสุขภาพและชะลอวัย (Wellness & Anti-Aging) จำหน่ายให้กับกลุ่มโรงพยาบาลและคลินิก ซึ่งได้รับความนิยมและเป็นที่รู้จักมากขึ้น โดยเฉพาะผลิตภัณฑ์ Probac 7 และ Probac 10 Plus ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์ซินไบโอติกที่ช่วยสร้างสมดุลของระบบขับถ่ายที่ดีและสร้างระบบภูมิค้มกัน ซึ่งถือเป็นจุดเริ่มต้นของสุขภาพที่ดีจากภายในสู่ภายนอก หลังจากนั้น บริษัทได้ขยายไปสู่กลุ่มผลิตภัณฑ์นวัตกรรมความงาม (Aesthetic Innovation) และจากการเล็งเห็นถึงการเติบโตของการเลี้ยงสุนัขและแมว จึงขยายไปสู่กลุ่มผลิตภัณฑ์สำหรับสัตว์เลี้ยง ซึ่งนำเสนอทั้งเวชภัณฑ์ เวชสำอาง โภชนเภสัช และอาหารสุขภาพสำหรับสัตว์เลี้ยง
ทั้งนี้ จากแนวโน้มการตระหนักในเรื่องของความปลอดภัยของอาหาร บริษัทจึงได้ขยายธุรกิจไปยังกลุ่มผลิตภัณฑ์ปศุสัตว์ และได้นำเสนอผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ โดยมุ่งเน้นความปลอดภัยของอาหาร (Food Safety) ส่งผลให้บริษัทมีผลประกอบการที่เติบโตอย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้ บริษัทไม่หยุดนิ่งที่จะพัฒนาผลิตภัณฑ์และนวัตกรรมใหม่ๆ อย่างสม่ำเสมอ เพื่อให้ผลิตภัณฑ์ที่จำหน่ายมีความโดดเด่นและแตกต่างจากผลิตภัณฑ์อื่นในท้องตลาด
พัฒนาการที่สำคัญของบริษัทในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา สรุปได้ดังนี้
2561
2562
2563
2564
2565
- บริษัทออกผลิตภัณฑ์ภายใต้ตราสินค้า 2 ผลิตภัณฑ์ คือ ผลิตภัณฑ์ YUUU Probiotic Premium Cleansing Mousse ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์โปรไบโอติกเพื่อการดูแลผิวหน้าที่ช่วยลดการอักเสบและเพิ่มความชุ่มชื้นให้ผิวอย่างอ่อนโยน ช่วยกำจัดและลดการเจริญเติบโตของแบคทีเรียก่อโรค และผลิตภัณฑ์ YUUU Advance Probiotic & Pine Needle Toothpaste ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์ยาสีฟันที่ช่วยดูแลช่องปากแบบบูรณาการ ช่วยปรับสมดุลสุขภาพช่องปากโดยรวมให้เหงือกและฟันแข็งแรง ลดการสะสมของแบคทีเรียก่อโรค ช่วยระงับกลิ่นปาก ให้ลมหายใจสดชื่น
- วันที่ 19 มีนาคม 2561 มีการจดทะเบียนจัดตั้งบริษัท อินเตอร์ เพ็ททรินา จำกัด (“อินเตอร์ เพ็ททรินา”) ด้วยทุนจดทะเบียนจำนวน 4 ล้านบาท ซึ่งเป็นบริษัทร่วมทุนระหว่างบริษัท กับบริษัท เอเชี่ยน กรุ๊ป เซอร์วิส จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของบริษัท ห้องเย็นเอเชี่ยน ซีฟู้ด จำกัด (มหาชน) โดยบริษัทถือหุ้นในสัดส่วนร้อยละ 60 และบริษัท เอเชี่ยน กรุ๊ป เซอร์วิส จำกัด ถือหุ้นในสัดส่วนร้อยละ 40 ของทุนจดทะเบียนของอินเตอร์เพ็ททรินา เพื่อประกอบธุรกิจจำหน่ายผลิตภัณฑ์อาหารสัตว์เลี้ยง โดยเน้นตลาดอาหารสัตว์เลี้ยงในประเทศ ผ่านช่องทางการจัดจำหน่ายที่บริษัทมีความเชี่ยวชาญอยู่แล้ว ได้แก่ โรงพยาบาลและคลินิกสัตว์เลี้ยง เพ็ทช็อป ร้านค้าปลีกสมัยใหม่หรือโมเดิร์นเทรด และช่องทางออนไลน์ต่างๆ โดยวางตำแหน่งทางการตลาดอาหารสัตว์เลี้ยงระดับพรีเมียม เพื่อตอบสนองไลฟ์สไตล์ของคนรักสัตว์เลี้ยงที่ต้องการความใส่ใจเรื่องสุขภาพและความปลอดภัยเป็นพิเศษ
- ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 18 พฤษภาคม 2561 ได้มีการทำสัญญาร่วมทุนระหว่างบริษัท และ บริษัท เอเชี่ยน กรุ๊ป เซอร์วิส จำกัด เพื่อกำหนดเงื่อนไขและข้อตกลงร่วมกันในการดำเนินธุรกิจในอินเตอร์ เพ็ททรินา ซึ่งรายละเอียดของสาระสำคัญของสัญญาดังกล่าวพิจารณาได้ในหัวข้อทรัพย์สินที่ใช้ในการประกอบธุรกิจ ในหัวข้อย่อยสัญญาร่วมทุน
- วันที่ 30 เมษายน 2561 ที่ประชุมสามัญผู้ถือหุ้นของบริษัทประจำปี 2561 มีมติอนุมัติการเพิ่มทุนจดทะเบียนจาก 40 ล้านบาท เป็น 65 ล้านบาท โดยการออกหุ้นสามัญเพิ่มทุนจำนวน 250,000 หุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 100 บาท เสนอขายให้แก่ผู้ถือหุ้นเดิมของบริษัทในราคาหุ้นละ 100 บาท โดยบริษัทได้จดทะเบียนทุนชำระแล้วใหม่ต่อกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ เมื่อวันที่ 15 พฤษภาคม 2561 ซึ่งบริษัทนำเงินที่ได้จากการเพิ่มทุนไปใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนในการดำเนินธุรกิจของบริษัท
- ในการเพิ่มทุนดังกล่าว ดร.ทรงวุฒิ ศักดิ์ชลาธร (ภายหลังเปลี่ยนชื่อเป็น ดร. ตฤณวรรธน์ ธนิตนิธิพันธ์) ซื้อหุ้นเพิ่มทุนต่ำกว่าสิทธิที่ได้รับจัดสรรหุ้น จึงมีผลทำให้ ดร. ตฤณวรรธน์ ธนิตนิธิพันธ์ มีสัดส่วนการถือหุ้นของบริษัทลดลงเหลือร้อยละ 65.81 ของทุนชำระแล้วของบริษัทภายหลังการเพิ่มทุนดังกล่าว ทั้งนี้ ปัจจุบัน ดร. ตฤณวรรธน์ ธนิตนิธิพันธ์ เป็นผู้ถือหุ้นบริษัทเพียงรายเดียวที่ดำรงตำแหน่งกรรมการบริษัท โดยผู้ถือหุ้นรายอื่นไม่มีรายใดถือหุ้นจนถึงหรือเกินกว่าร้อยละ 10 และมีส่วนร่วมในการบริหารงานในบริษัท
- นอกจากนี้ ที่ประชุมผู้ถือหุ้นดังกล่าวได้มีมติให้จ่ายเงินปันผลจากกำไรสุทธิประจำปี 2560 หลังหักสำรองตามกฎหมาย จากกำไรสะสมหลังหักสำรองตามกฎหมายให้แก่ผู้ถือหุ้นในอัตราหุ้นละ 70 บาท รวมเป็นเงินทั้งสิ้น 28 ล้านบาท และจัดสรรกำไรเป็นทุนสำรองตามกฎหมายจำนวน 1.5 ล้านบาท โดยกำหนดจ่ายเงินปันผลในวันที่ 7 พฤษภาคม 2561
- เดือนพฤษภาคม 2561 อินเตอร์เพ็ททรินาออกผลิตภัณฑ์อาหารสุนัขและแมว ภายใต้ตราสินค้า “MARIA” ซึ่งพัฒนาโดยสัตวแพทย์และนักโภชนาการ บนแนวคิด “Authentic Pet Food” ซึ่งผลิตจากเนื้อจริง (Real Meat) เกรดเดียวกับที่ผลิตอาหารคน ไม่มีการใช้วัตถุกันเสีย (Preservation Free) มีพรีไบโอติกส์ (Prebiotic) ที่ช่วยดูแลระบบย่อยของสารอาหาร เสริมการทำงานของระบบภูมิคุ้มกัน และปราศจากส่วนผสมจากแป้ง ข้าวโพด ข้าวสาลี ถั่วเหลือง (Grain-Free) เหมาะกับสุนัขและแมวที่แพ้อาหารประเภทธัญพืช
- วันที่ 18 เมษายน 2562 ที่ประชุมสามัญผู้ถือหุ้นของบริษัทประจำปี 2562 มีมติอนุมัติให้จ่ายเงินปันผลจากกำไรสะสมหลังหักสำรองตามกฎหมายให้แก่ผู้ถือหุ้นในอัตราหุ้นละ 17.80 บาท รวมเป็นเงินทั้งสิ้น 11.57 ล้านบาท และจัดสรรกำไรเป็นทุนสำรองตามกฎหมายจำนวน 0.67 ล้านบาท โดยกำหนดจ่ายเงินปันผลในวันที่ 19 เมษายน 2562 รวมทั้งได้มีมติอนุมัติการเพิ่มทุนจดทะเบียนจาก 65 ล้านบาท เป็น 80 ล้านบาท โดยการออกหุ้นสามัญเพิ่มทุนจำนวน 150,000 หุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 100 บาท เสนอขายให้แก่ผู้ถือหุ้นเดิมของบริษัทตามสัดส่วนการถือหุ้นการถือหุ้น ในราคาหุ้นละ 100 บาท โดยบริษัทได้จดทะเบียนทุนชำระแล้วใหม่ต่อกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ เมื่อวันที่ 24 เมษายน 2562 ซึ่งบริษัทนำเงินที่ได้จากการเพิ่มทุนไปใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนในการดำเนินธุรกิจของบริษัท
- วันที่ 7 พฤษภาคม 2562 ที่ประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้นครั้งที่ 1/2562 มีมติอนุมัติการแปรสภาพของบริษัทจากบริษัทจำกัดเป็นบริษัทมหาชนจำกัด โดยใช้ชื่อว่า “บริษัท อินเตอร์ ฟาร์มา จำกัด (มหาชน)” การเปลี่ยนแปลงมูลค่าหุ้นที่ตราไว้ของบริษัท จากหุ้นละ 100 บาท เป็นหุ้นละ 0.50 บาท และการเพิ่มทุนจดทะเบียนของบริษัทจำนวน 23 ล้านบาท จากทุนจดทะเบียนเดิมจำนวน 80 ล้านบาท เป็นทุนจดทะเบียนจำนวน 103 ล้านบาท โดยการออกหุ้นสามัญเพิ่มทุนจำนวน 46 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 0.50 บาท แบ่งการเสนอขายออกเป็น (1) หุ้นสามัญเพิ่มทุนจำนวน 39.1 ล้านหุ้น เสนอขายให้แก่ประชาชน (2) หุ้นสามัญเพิ่มทุนจำนวน 6.9 ล้านหุ้น เสนอขายให้แก่กรรมการ ผู้บริหารและ/หรือพนักงานของบริษัทและบริษัทย่อย ในราคาเดียวกันกับราคาที่เสนอขายให้แก่ประชาชน พร้อมทั้งนำหุ้นสามัญของบริษัทเข้า จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ โดยบริษัทได้จดทะเบียนแปรสภาพ เปลี่ยนแปลงมูลค่าหุ้นที่ตราไว้ และทุนจดทะเบียนใหม่ต่อกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ เมื่อวันที่ 15 พฤษภาคม 2562
- วันที่ 19 กันยายน 2562 สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ ได้อนุญาตให้บริษัทเสนอขายหุ้นที่ออกใหม่ต่อประชาชน
- วันที่ 28 - 30 ตุลาคม 2562 บริษัทเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนของบริษัทให้กับประชาชนเป็นครั้งแรก (IPO) จำนวน 46,000,000 หุ้น ราคาที่เสนอขายหุ้นละ 7 บาท เป็นจำนวนเงิน 322,000,000 บาท ซึ่งหลังหักค่าใช้จ่ายในการเสนอขายคงเหลือ 304,482,430 ล้านบาท โดยบริษัทนำเงินที่ได้รับจากการเพิ่มทุนนำไปชำระคืนเงินกู้ยืมระยะสั้น และใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนของบริษัท
- วันที่ 1 พฤศจิกายน 2562 บริษัทได้ดำเนินการจดทะเบียนเพิ่มทุนต่อกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ เป็น 103,000,000 บาท แบ่งเป็นหุ้น 206,000,000 หุ้น ราคาพาร์ละ 0.50 บาท
- วันที่ 5 พฤศจิกายน 2562 หุ้นสามัญของบริษัทได้เข้าเป็นหลักทรัพย์จดทะเบียนและเริ่มทำการซื้อขายหลักทรัพย์เป็นวันแรกในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ กลุ่มอุตสาหกรรม สินค้าอุปโภคบริโภค โดยมีชื่อย่อหลักทรัพย์ “IP”
- ต้นปี 2563 ได้เกิดการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรน่า สายพันธุ์ใหม่ 2019 (COVID-19) ทั้งประเทศไทยและทั่วโลก ซึ่งการแพร่ระบาดของโรค COVID-19 ส่งผลทำให้เกิดการชะลอตัวของเศรษฐกิจและมีผลกระทบต่อธุรกิจและอุตสาหกรรมโดยรวม สถานการณ์ดังกล่าว บริษัทได้ออกผลิตภัณฑ์ใหม่ คือ หน้ากากอนามัยผลิตด้วยเส้นใยนาโนและเส้นใยไผ่ธรรมชาติ และแอลกอฮอล์ทําความสะอาดมือ ชนิดหลอดและซอง เพื่อจำหน่ายให้ลูกค้า
- วันที่ 1 เมษายน 2563 ที่ประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2563 มีมติอนุมัติให้จ่ายเงินปันผลจากกำไรสุทธิประจำปี 2562 หลังหักสำรองตามกฎหมายให้แก่ผู้ถือหุ้นในอัตราหุ้นละ 0.185 บาท รวมเป็นเงินทั้งสิ้น 38.11 ล้านบาท และจัดสรรกำไรเป็นสำรองตามกฎหมายจำนวน 2.10 ล้านบาท โดยบริษัทกำหนดรายชื่อผู้ถือหุ้นที่มีสิทธิได้รับปันผลตามรายชื่อที่ปรากฏอยู่ในสมุดทะเบียนผู้ถือหุ้น ณ วันที่ 9 เมษายน 2563 และกำหนดจ่ายเงินปันผลภายใน 30 วัน นับจากมีมติที่ประชุมสามัญผู้ถือหุ้น โดยบริษัทได้จ่ายเงินปันผล เมื่อวันที่ 27 เมษายน 2563
- วันที่ 6 สิงหาคม 2563 ที่ประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้น ครั้งที่ 1/2563 มีมติอนุมัติให้ออกหุ้นกู้ในวงเงินไม่เกิน 300 ล้านบาท ทั้งนี้ ภาระหนี้รวมทั้งหมด ณ เวลาใดเวลาหนึ่งจะต้องไม่เกิน 460 ล้านบาท เพื่อวัตถุประสงค์ในการชำระคืนหนี้เงินกู้ซึ่งมีอยู่ในปัจจุบัน และ/หรือใช้ในการดำเนินงาน และ/หรือ ขยายธุรกิจ และ/หรือ เป็นเงินทุนหมุนเวียนของบริษัท หรือ เพื่อวัตถุประสงค์อื่นๆ ตามที่คณะกรรกมารบริษัทเห็นสมควร
- ผลิตภัณฑ์ Probac และ ผลิตภัณฑ์ยาสีฟัน YUUU เป็นสินค้าที่ขายดีที่สุดอันดับ 1 จากร้านขายยา LAB Pharmacy
- วันที่ 17 กรกฎาคม 2563 ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทครั้งที่ 5/2563 มีมติอนุมัติให้บริษัทขายเงินลงทุนในหุ้นสามัญของบริษัท อินเตอร์สเต็มมา จำกัด ทั้งหมดในราคาตามมูลค่าเป็นจำนวนเงิน 6.25 ล้านบาท ให้กับผู้ถือหุ้นกลุ่มเดิมของบริษัท
- ดร. ทรงวุฒิ ศักดิ์ชลาธร ได้เปลี่ยนชื่อและชื่อสกุลเป็น ดร. ตฤณวรรธน์ ธนิตนิธิพันธ์ เมื่อวันที่ 23 กันยายน 2563
- ผลิตภัณฑ์ใหม่ ได้แก่ PROBIOTA BL, PROIMMO, VITAMUNE, MOUTH SPRAY YUUU HONEY BEE PROPOLIS NATURAL MOUTH SPRAY
- บริษัทได้ซื้อกิจการบริษัท โมเดิร์น ฟาร์มา จำกัด จำนวนเงิน 295 ล้านบาท เมื่อวันที่ 27 พฤศจิกายน 2563
- วันที่ 7 มกราคม 2564 บริษัทได้จัดตั้งบริษัทร่วมลงทุน ชื่อ “บริษัท อินเตอร์ฟาร์มา-ซีวิต้า จำกัด” โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อวิจัยและพัฒนา ผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพ ทุนจดทะเบียนจำนวน 20 ล้านบาท โดยบริษัทถือหุ้นร้อยละ 60 และบริษัท ไทยยูเนี่ยน อินกรีเดียนท์ จำกัด ถือหุ้นร้อยละ 40
- วันที่ 8 กุมภาพันธ์ 2564 คณะกรรมการบริษัทได้อนุมัติการเข้าทำรายการได้มาซึ่งสินทรัพย์โดยการซื้อที่ดินจำนวน 20 ไร่ โรงงานผลิตยาและเครื่องจักร และทะเบียนยาจำนวน 4 ตำรับ มูลค่ารวมจำนวน 160 ล้านบาท จากบริษัท เทวา ฟาร์มา (ประเทศไทย) จำกัด
- วันที่ 26 เมษายน 2564 ที่ประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2564 มีมติอนุมัติจัดสรรกำไรเป็นทุนสำรองตามกฎหมายจำนวน 2.56 ล้านบาท และจ่ายเงินปันผลสำหรับผลการดำเนินงานปี 2563 ให้แก่ผู้ถือหุ้นจำนวน 46.02 ล้านบาท ในอัตราหุ้นละ 0.2234 บาท โดยการจ่ายปันผลเป็นหุ้นสามัญและเงินสด ดังนี้
- จ่ายปันผลเป็นเงินสดในอัตราหุ้นละ 0.0234 บาท คิดเป็นเงินจำนวน 4,820,400 บาท
- จ่ายปันผลเป็นหุ้นสามัญของบริษัทจำนวน 82,400,000 หุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 0.50 บาท ให้แก่ผู้ถือหุ้นในอัตรา 2.5 หุ้นเดิมต่อ 1 หุ้นปันผล รวมเป็นมูลค่าทั้งสิ้นจำนวน 41,200,000 บาท คิดเป็นการจ่ายเงินปันผลด้วยหุ้นสามัญในอัตราหุ้นละ 0.20 บาท ในกรณีหากมีเศษ บริษัทจะจ่ายเงินปันผลเป็นเงินสด แทนการจ่ายหุ้นปันผลในอัตราหุ้นละ 0.20 บาท
- วันที่ 19 พฤษภาคม 2564 บริษัทได้ลงนามความร่วมมือทางวิชาการ ระหว่างมหาวิทยาลัยสงขลา นครินทร์ (ม.อ.) และบริษัท เพื่อพัฒนาต่อยอดงานวิจัยและพัฒนาที่เกี่ยวกับกระท่อม และสารสกัดจากกระท่อมสู่การผลิตที่ได้มาตรฐานและนำไปใช้ประโยชน์เพื่อการเป็นอาหารเสริม โภชนบำบัด ยา และผลิตภัณฑ์สุขภาพต่าง ๆ โดยบันทึกข้อตกลงนี้มีผลบังคับใช้ระยะเวลา 5 ปี จนถึงเดือนพฤษภาคม 2569
- วันที่ 14 กรกฎาคม 2564 ที่ประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้น ครั้งที่ 1/2564 มีมติอนุมัติเรื่องสำคัญดังนี้
- อนุมัติให้แก้ไขเพิ่มเติมข้อบังคับข้อ 31 เรื่องการประชุมคณะกรรมการผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ ทั้งนี้ เพื่อให้สอดคล้องกับกฎหมายที่เปลี่ยนแปลงไปในปัจจุบัน
- อนุมัติการออกและเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนของบริษัทให้แก่ผู้ถือหุ้นเดิมตามสัดส่วนจำนวนหุ้นที่ ผู้ถือหุ้นแต่ละรายถืออยู่ (Rights Offering) จำนวนไม่เกิน 9,613,320 หุ้น ในอัตราส่วนการจัดสรร 30 หุ้นสามัญเดิม ต่อ 1 หุ้นสามัญเพิ่มทุน โดยมีราคาเสนอขายหุ้นละ 20 บาท โดยกำหนดให้วันกำหนดรายชื่อผู้ถือหุ้นที่มีสิทธิได้รับการจัดสรรและเสนอขายสามัญเพิ่มทุนพร้อมใบสำคัญแสดงสิทธิ IP-W1 (Record Date) ในวันที่ 21 กรกฎาคม 2564 และกำหนดวันจองซื้อและชำระเงินค่าหุ้นสามัญเพิ่มทุนในระหว่างวันที่ 9 สิงหาคม 2564 ถึงวันที่ 13 สิงหาคม 2564
- อนุมัติการออกและจัดสรรใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นสามัญของบริษัทครั้งที่ 1 (“IP-W1”) เพื่อจัดสรรให้แก่ผู้ถือหุ้นเดิมของบริษัทที่จองซื้อและชำระค่าหุ้นสามัญเพิ่มทุนตามสัดส่วนการถือหุ้นจำนวนไม่เกิน 19,226,640 หน่วย โดยไม่คิดมูลค่า
- อนุมัติเพิ่มทุนจดทะเบียนของบริษัทแบบมอบอำนาจทั่วไป (General Mandate) จำนวนไม่เกิน 38,839,959 หุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 0.50 บาท โดย มีรายละเอียดการจัดสรรดังนี้
- จัดสรรหุ้นสามัญเพิ่มทุนใหม่เป็นจำนวนไม่เกิน 10,000,000 หุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 0.50 บาท คิดเป็นไม่เกินร้อยละ 3.47 ของทุนชำระแล้ว เพื่อเสนอขายให้แก่ผู้ถือหุ้นเดิมของบริษัท ตามสัดส่วนการถือหุ้น (Right Offering) หรือ
- จัดสรรหุ้นสามัญเพิ่มทุนใหม่เป็นจำนวนไม่เกิน 28,839,959 หุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 0.50 บาท คิดเป็นไม่เกินร้อยละ 10 ของทุนชำระแล้ว เพื่อเสนอขายให้แก่บุคคลในวงจำกัด (Private Placement)
- อนุมัติเพิ่มทุนจดทะเบียนของบริษัทจำนวน 33,839,959.50 บาท จากทุนจดทะเบียนเดิม 144,199,795.50 บาท เป็นทุนจดทะเบียนใหม่จำนวน 178,039,755 บาท โดยการออกหุ้นสามัญเพิ่มทุนจำนวนไม่เกิน 67,679,919 หุ้น มูล ค่าที่ตราไว้หุ้นละ 0.50 บาท
- วันที่ 9 -16 สิงหาคม 2564 บริษัทได้ออกและเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนให้แก่ผู้ถือหุ้นเดิมของบริษัทตามสัดส่วนการถือหุ้น (Right Offering) จำนวน 9,610,933 หุ้น คิดเป็นเงินจำนวน 192,218,660 บาท
- วันที่ 26 สิงหาคม 2564 บริษัทได้ดำเนินการจดทะเบียนเพิ่มทุนชำระแล้ว จากเดิม 144,199,795.50 บาท เป็น 149,005,262 บาท ต่อกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์
- วันที่ 7 กันยายน 2564 บริษัทได้ลงนามในบันทึกข้อตกลงระหว่างบริษัทและบริษัท อาร์ แอนด์ บี ฟู้ด ซัพพลาย จำกัด (มหาชน) เกี่ยวกับการวิจัย พัฒนาและต่อยอดการผลิตที่เกี่ยวกับผลิตภัณฑ์กัญชงและกัญชาที่ได้รับอนุญาตตามกฎหมายที่เกี่ยวข้อง โดยบันทึกข้อตกลงนี้มีผลบังคับใช้ระยะเวลา 1 ปี นับตั้งแต่วันที่ลงนามในบันทึกข้อตกลง
- วันที่ 1 ตุลาคม 2564 บริษัทได้ออกใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นสามัญของบริษัทครั้งที่ 1 (“IP-W1”) ให้แก่ผู้ถือหุ้นเดิมของบริษัทที่จองซื้อและชำระค่าหุ้นสามัญเพิ่มทุนตามสัดส่วนการถือหุ้นจำนวน 19,221,866 หน่วย
- ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทครั้งที่ 7/2564 เมื่อวันที่ 9 พฤศจิกายน 2564 มีมติอนุมัติให้บริษัท อินเตอร์ ฟาร์มาซี จำกัด (บริษัทย่อยอยู่ระหว่างการจดทะเบียนจัดตั้งบริษัท) เข้าลงทุนโดยการเข้าซื้อหุ้นบริษัท ดรัก แคร์ จำกัด (“ดรักแคร์”) ในสัดส่วนร้อยละ 88.67 ของทุนจดทะเบียนที่ออกและชำระแล้วของดรักแคร์ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อเป็นการต่อยอดการดำเนินธุรกิจของบริษัทที่สามารถดำเนินกิจการได้อย่างครบวงจรมากยิ่งขึ้น ซึ่งบริษัทคาดว่าจะสามารถชำระเงินและโอนหุ้นของดรักแคร์ (Closing date) ได้ภายในไตรมาส 1 ปี 2565
- วันที่ 7 ธันวาคม 2564 บริษัทได้เข้าทำบันทึกข้อตกลงเบื้องต้น กับบริษัท อินโน ฮับ จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของบริษัท วันทูวัน คอนแทคส์ จำกัด (มหาชน) ซึ่งประกอบธุรกิจเกี่ยวกับการการวิจัย/พัฒนาซอฟต์แวร์ และให้บริการพัฒนานวัตกรรมด้านดิจิทัล (“ผู้ร่วมทุน”) โดยมีวัตถุประสงค์ในการจัดตั้งบริษัทร่วมทุน เพื่อลงทุนร่วมกันในการประกอบธุรกิจจำหน่ายผลิตภัณฑ์สุขภาพ รวมถึงการให้คำปรึกษาด้านเภสัชกรออนไลน์ (“ธุรกิจ Telepharmacy”) โดยบริษัทจะถือหุ้นในบริษัทร่วมทุนในสัดส่วนร้อยละ 50 ของจำนวนหุ้นทั้งหมดของบริษัทร่วมทุน (“บริษัทร่วมทุน”)
- ปี 2564 บริษัทได้ออกผลิตภัณฑ์ใหม่ รวม 6 รายการ ดังนี้
- Probac FIT 2 sku : ซินไบโอติกเพื่อการควบคุมน้ำหนัก
- Bravo FIT 10 capsules : เพื่อสุขภาพองค์รวมสำหรับคุณผู้ชายโดยเฉพาะ
- Wonder FIT 30 capsules : เพื่อสุขภาพองค์รวมสำหรับคุณผู้หญิงโดยเฉพาะ ลดอาการปวดประจำเดือน และลดอาการวัยทอง
- TS6 10 sachets (For skin) : ซินไบโอติกเพื่อผิวพรรณ
- Probac Ultra Collagen 30 sachets : คอลลาเจนผสมซินไบโอติกเพื่อผิวพรรณ และลดเรือนริ้วรอย
- Protein Fit x2 10 sachets : โปรตีนจากพืชเพื่อการคุมน้ำหนัก และสร้างมวลกล้ามเนื้อ
- วันที่ 1 เมษายน 2565 บริษัทได้ดำเนินการจดทะเบียนจัดตั้งบริษัทย่อยใหม่ คือ บริษัท อินเตอร์ ฟาร์มาซี จำกัด ทุนจดทะเบียนจำนวน 315,000,000 บาท โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อดำเนินการและ/หรือลงทุนในธุรกิจใหม่ของกลุ่มบริษัท
- วันที่ 8 เมษายน 2565 บริษัท อินเตอร์ ฟาร์มาซี จำกัด ได้ดำเนินการชำระเงินค่าหุ้นให้กับผู้ถือหุ้นเดิมของบริษัท ดรัก แคร์ จำกัด เป็นที่เรียบร้อยแล้ว
- วันที่ 1 กรกฎาคม 2565 เปลี่ยนแปลงผู้อำนวยการฝ่ายบัญชีและการเงิน (CFO) จากเดิมนางสาว สุภาภรณ์ ฤกษ์พิทักษ์พาณิช เป็นนางณัฐรินทร์ พลพืชน์
- วันที่ 20 กรกฎาคม 2565 ที่ประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้น ครั้งที่ 1/2565 มีมติอนุมัติเรื่องสำคัญดังนี้
- อนุมัติลดทุนจดทะเบียนของบริษัท จำนวน 19,423,560 บาท จากทุนจดทะเบียนจำนวน 178,039,755 บาท เป็น 158,616,195 บาท โดยการตัดหุ้นสามัญที่ยังไม่ได้จำหน่ายออกจำนวน 38,847,120 หุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 0.50 บาท ซึ่งเป็นหุ้นสามัญที่เหลือจากการจัดสรรให้แก่ผู้ถือหุ้นเดิมของบริษัทตามสัดส่วนการถือหุ้น (Rights Offering) จำนวน 2,387 หุ้น และเหลือจากการสำรองสำหรับการใช้สิทธิแปลงสภาพของใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นสามัญของบริษัทครั้งที่ 1 (IP-W1) จำนวน 4,774 หุ้น และหุ้นสำรองสำหรับใช้สิทธิการเพิ่มทุนแบบมอบอำนาจทั่วไป จำนวน 38,839,959 หุ้น
- อนุมัติออกและเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนจำนวนไม่เกิน 74,510,000 หุ้น เพื่อเสนอขายแบบเฉพาะเจาะจงแก่บุคคลในวงจำกัด ให้กับบริษัท อินโนบิก แอลแอล โฮลดิ้ง จำกัด (“INNOBIC LL”) (ซึ่งเป็นบริษัทย่อยทางอ้อมของ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) (“PTT”) ที่ PTT ถือหุ้นทางอ้อมผ่านบริษัทย่อยในสัดส่วนร้อยละ 100) ซึ่ง INNOBIC LL จะถือหุ้นในบริษัทคิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 20 ของทุนจดทะเบียนภายหลังการเพิ่มทุน
- อนุมัติเพิ่มทุนจดทะเบียนของบริษัท แบบมอบอำนาจทั่วไป (General Mandate) เป็นจำนวนไม่เกิน 38,839,959 หุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 0.50 บาท
- อนุมัติเพิ่มทุนจดทะเบียนของบริษัทจำนวน 57,602,430.50 บาท จากทุนจดทะเบียนเดิมจำนวน 158,616,195 บาท เป็นทุนจดทะเบียนจำนวน 216,218,625.50 บาท โดยการออกหุ้นสามัญเพิ่มทุนจำนวน 115,204,861 หุ้น มูลค่าหุ้นที่ตราไว้หุ้นละ 0.50 บาท เพื่อจัดสรรให้แก่บุคคลในวงจำกัด (Private Placement) จำนวน 74,510,000 หุ้น สำรองเพิ่มไว้สำหรับการปรับสิทธิของใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นสามัญของบริษัทครั้งที่ 1 (IP-W1) จำนวน 1,854,902 หุ้น และสำรองสำหรับการเพิ่มทุนแบบมอบอำนาจทั่วไป (General Mandate) จำนวน 38,839,959 หุ้น
- อนุมัติเพิ่มจำนวนกรรมการจากเดิม 7 คน เป็น 10 คน เพื่อให้สอดคล้องกับการขยายตัวทางธุรกิจของบริษัท และอนุมัติแต่งตั้งกรรมการเข้าใหม่จำนวน 3 ท่าน คือ นางอภิร์มณ โพธิ์ศรี นางณัฐรินทร์ พลพืชน์ และนางสาวชมภูนุช มีหวัง
- วันที่ 9 สิงหาคม 2565 ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัท ครั้งที่ 8/2565 มีมติอนุมัติเรื่องสำคัญดังนี้
- กำหนดวันออกและเสนอขายหุ้นให้กับบุคคลในวงจำกัด (Private Placement) คือ บริษัท อินโนบิก แอลแอล โฮลดิ้ง จำกัด จำนวน 74,510,000 หุ้น โดยมีระยะเวลาการจองซื้อและชำระค่าหุ้นสามัญเพิ่มทุน คือ วันที่ 10 สิงหาคม 2565 ในราคาหุ้นละ 14 บาท รวมเป็นเงินทั้งสิ้น 1,043.14 ล้านบาท
- ปรับสิทธิ IP-W1 สืบเนื่องจากการที่บริษัทเสนอขายหุ้นสามัญที่ออกใหม่ให้แก่บุคคลในวงจำกัด ในราคาเสนอขายต่ำกว่าร้อยละ 90 ของราคาตลาด เป็นดังนี้
- ราคาการใช้สิทธิ (บาท : หุ้น) เดิมหุ้นละ 25 บาท เป็น 23.915 บาท
- อัตราการใช้สิทธิ เดิม 1:1 เป็น 1:1.045
- แต่งตั้งนายเทอดเกียรติ พร้อมมูล และ ดร. ณัฐ อธิวิทวัส เข้าเป็นกรรมการแทนนางสาวสุภาภรณ์ ฤกษ์พิทักษ์พาณิช และนางสาวชมภูนุช มีหวัง ตามลำดับ
- เปลี่ยนแปลงอำนาจกรรมการเป็นดังนี้
จากเดิม “นายตฤณวรรธน์ ธนิตนิธิพันธ์ ลงลายมือชื่อร่วมกับ นางสาวนภาภรณ์ เดชอัคราช หรือ นางสาวสุภาภรณ์ ฤกษ์พิทักษ์พาณิช รวมเป็นสองคนและประทับตราสำคัญของบริษัท”
แก้ไขเป็น “นายตฤณวรรธน์ ธนิตนิธิพันธ์ ลงลายมือชื่อร่วมกับ นางสาวนภาภรณ์ เดชอัคราช หรือ นางอภิร์มณ โพธิ์ศรี หรือ นางณัฐรินทร์ พลพืชน์ รวมเป็นสองคนและประทับตราสำคัญของบริษัท”
- วันที่ 10 สิงหาคม 2565 บริษัทได้ดำเนินการจดทะเบียนเพิ่มทุนชำระแล้วอีกจำนวน 37,255,000 บาท จึงทำให้บริษัทมีทุนจดทะเบียนชำระแล้วจำนวน 186,260,262 บาท
- วันที่ 1 ตุลาคม 2565 บริษัทได้ดำเนินการจดทะเบียนจัดตั้งบริษัทย่อยใหม่ คือ บริษัท อินเตอร์ เวลเนส จำกัด ทุนจดทะเบียนจำนวน 1,000,000 บาท โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อดำเนินการและ/หรือลงทุนในธุรกิจใหม่ของกลุ่มบริษัท
- วันที่ 28 ตุลาคม 2565 บริษัทได้รับรางวัล Best Innovative Company Awards จากงาน SET AWARDS 2022 ที่จัดขึ้นโดยตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ซึ่งบริษัทส่งหัวข้อส่งนวัตกรรม “Specialized Probiotic Nutraceuticals: โภชนบำบัด โปรไบโอติก เพื่อการดูแลสุขภาพเฉพาะทาง” เข้าประกวด
- วันที่ 2 พฤศจิกายน 2565 ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัท ครั้งที่ 8/2565 มีมติอนุมัติเรื่องสำคัญดังนี้
- อนุมัติให้บริษัท อินเตอร์ เวลเนส จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของบริษัทเข้าลงทุนโดยการเข้าซื้อหุ้นบริษัท นครพัฒน์ จำกัด (“นครพัฒน์”) ในสัดส่วนร้อยละ 50 ของทุนจดทะเบียนที่ออกและชำระแล้วของนครพัฒน์ ซึ่งนครพัฒน์ประกอบธุรกิจโรงพยาบาลขนาด 59 เตียง ตั้งอยู่ที่จังหวัดนครศรีธรรมราช
- อนุมัติการเพิ่มทุนจดทะเบียนของบริษัท อินเตอร์ เวลเนส จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทย่อยที่บริษัทถือหุ้น ร้อยละ 100 อีกจำนวน 429 ล้านบาท จากทุนจดทะเบียนเดิม 1 ล้านบาท เป็น 430 ล้านบาท แบ่งออกเป็นหุ้นสามัญจำนวน 4,300,000 หุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 100 บาท โดยมีวัตถุประสงค์ในการเพิ่มทุนเพื่อเข้าลงทุนโดยการซื้อหุ้นของบริษัท นครพัฒน์ จำกัด จำนวน 400 ล้านบาท และเป็นเงินลงทุนในธุรกิจคลินิก จำนวน 30 ล้านบาท
- วันที่ 16 พฤศจิกายน 2565 บริษัท อินเตอร์ เวลเนส จำกัด ได้ดำเนินการชำระเงินค่าหุ้นให้กับผู้ถือหุ้นเดิมของบริษัท นครพัฒน์ จำกัด เป็นที่เรียบร้อยแล้ว